- เอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลสำหรับคู่ค้าตามกฎหมายไทย
เอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลสำหรับคู่ค้าตามกฎหมายไทย
ในเอกสารฉบับนี้ บริษัท นิปปอน สตีล เซาท์อีสท์ เอเชีย จำกัด (“NSSEA”) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ 909 อาคารแอมเพิล ทาวเวอร์ ชั้น 14 ถนนเทพรัตน แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา จังหวัดกรุงเทพฯ 10260 จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผย (“การประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์กับลูกค้าในปัจจุบันหรือในอนาคต บริษัทที่ทำการค้า ผู้บริโภค ผู้จัดหาสินค้าและให้บริการ ตัวแทน ที่ปรึกษา ผู้สอบบัญชีจากภายนอก สถาบันวิจัย องค์การอุตสาหกรรม และบุคคลอื่นซึ่ง NSSEA หรือบริษัทใดในกลุ่มของ NSSEA มีหรือกำลังพิจารณาที่จะสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ (แต่ละบุคคลเรียกว่า “คู่ค้า”) ตามมาตรา 23 ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“พระราชบัญญัติฯ”)
ก. หมวดหมู่ของข้อมูลส่วนบุคคล
ในบริบทของความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่าง NSSEA กับคู่ค้า NSSEA อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
· ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการติดต่อ เช่น ชื่อสกุลเต็ม ตำแหน่งงาน ที่อยู่สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ทำงาน หมายเลขโทรสารที่ทำงาน และที่อยู่อีเมลที่ทำงานของคู่ค้าซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา หรือบุคคลซึ่งทำงานให้คู่ค้า (แต่ละบุคคลเรียกว่า “ผู้ติดต่อของคู่ค้า”) และ
· ข้อมูลเพิ่มเติมที่ถูกประมวลผลซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ระหว่าง NSSEA กับคู่ค้า หรือที่ได้มาจากผู้ติดต่อของคู่ค้าโดยสมัครใจ
ข. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลและฐานทางกฎหมายในการประมวลผล
NSSEA ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุในข้อ ก. ข้างต้นเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
· การสื่อสารกับผู้ติดต่อของคู่ค้า เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของ NSSEA เช่นการตอบใบสอบถามราคาหรือคำขอ การเข้าหรือทำธุรกรรมสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการ การให้การสนับสนุนทางเทคนิค
· การสื่อสารกับผู้ติดต่อของคู่ค้า เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของคู่ค้า
· การวางแผน ปฏิบัติงานและจัดการความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับคู่ค้า
· การแก้ไขข้อพิพาท การบังคับใช้ตามข้อตกลง และ / หรือเพื่อจัดตั้ง ดำเนินการ หรือแก้ต่างการเรียกร้องทางกฎหมาย
· ปฏิบัติตามกฏหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความร่วมมือกับหน่วยงานและผู้กํากับดูแลข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
กรณีได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ติดต่อของคู่ค้าโดยชัดแจ้ง ฐานทางกฎหมายในการประมวลผลคือ ฐานความยินยอมจากผู้ติดต่อของคู่ค้า (มาตรา 19 และมาตรา 24 ของพระราชบัญญัติฯ)
กรณีที่การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งผู้ติดต่อของคู่ค้าเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของผู้ติดต่อของคู่ค้าก่อนเข้าทำสัญญา ฐานทางกฎหมายในการประมวลผลคือ มาตรา 24(3) ของพระราชบัญญัติฯ
กรณี NSSEA ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ ฐานทางกฎหมายในการประมวลผลคือ มาตรา 24(6) ของพระราชบัญญัติฯ
ในกรณีอื่น ฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ NSSEA ระบุในข้อ ก. ข้างต้นคือ มาตรา 24(5) ของพระราชบัญญัติฯ ทั้งนี้ ประโยชน์อันชอบธรรมของ NSSEA คือ การส่งและรับข้อมูลเพื่อดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของ NSSEA รวมถึงการขยาย และ/หรือ สร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับคู่ค้า
โดยทั่วไปในการประกอบธุรกิจตามปกติ NSSEA จะไม่ทำการเก็บรวบรวมหรือประมวลผลโดยประการอื่นซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดอยู่ในหมวดหมู่พิเศษของผู้ติดต่อของคู่ค้า เช่น ข้อมูลที่แสดงความเชื่อทางศาสนาหรือปรัชญา ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดอยู่ในหมวดหมู่พิเศษดังกล่าวไม่ว่าด้วยเหตุใด NSSEA จะยึดตามหลักพื้นฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้ แล้วแต่สถานการณ์
(1) ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากผู้ติดต่อของคู่ค้า (มาตรา 26 ของพระราชบัญญัติฯ)
(2) เป็นข้อมูลส่วนบุคคลถูกเปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของผู้ติดต่อของคู่ค้า (มาตรา 26(3) ของพระราชบัญญัติฯ) หรือ
(3) การประมวลผลเป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย (มาตรา 26(4) ของพระราชบัญญัติฯ)
ค. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อวัตถุประสงค์ในการประมวลผลที่ระบุในข้อ ข. ข้างต้น NSSEA อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อผู้รับหรือหมวดหมู่ของผู้รับดังต่อไปนี้
· กรรมการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน และผู้สอบบัญชี และบุคคลใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตำแหน่งนั้น ๆ (“บุคลากร”) ของ NSSEA
· ที่ปรึกษาจากภายนอก เช่น ทนายความ ที่ปรึกษาทางบัญชีและภาษี (“ที่ปรึกษา”) ของ NSSEA
· กลุ่มบริษัทของ NSSEA และบุคลากรและที่ปรึกษาของกลุ่มบริษัทนั้นซึ่ง NSSEA จำเป็นต้องแบ่งปันข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการประมวลผล
· คู่ค้าอื่น ๆ และบุคลากรและที่ปรึกษาของคู่ค้านั้นซึ่ง NSSEA จำเป็นต้องแบ่งปันข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการประมวลผล
· หน่วยงานของรัฐ คณะกรรมการ คณะกรรมาธิการ เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่ทางนิติบัญญัติ ทางตุลาการ ทางการกำกับดูแล หรือทางปกครอง
ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลอาจอยู่ในประเทศหรือพื้นที่นอกประเทศไทย ("ประเทศที่สาม”) NSSEA จะส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้รับอื่นในประเทศที่สามในกรณีดังต่อไปนี้เท่านั้น
(1) ผู้รับดังกล่าวอยู่ในประเทศหรือพื้นที่ที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ
(2) ผู้ติดต่อของคู่ค้าได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งให้ส่งข้อมูลส่วนบุคคลของตน หรือ
(3) เป็นกรณีภายใต้ข้อยกเว้นตามมาตรา 28 ของพระราชบัญญัติฯ
ง. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
เว้นแต่จะมีระบุไว้เป็นอย่างอื่น NSSEA จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตราบเท่าที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ที่ข้อมูลนั้นถูกเก็บรวบรวมหรือประมวลผลโดยประการอื่นใด (ซึ่งรวมถึงกรณีที่เป็นไปตามที่กฎหมายหรือระเบียบที่บังคับใช้กำหนด หรือเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย)
จ. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
1. สิทธิในการถอนความยินยอม
กรณีที่การประมวลผลขึ้นอยู่กับความยินยอมของผู้ติดต่อของคู่ค้า (มาตรา 19 ของพระราชบัญญัติฯ) ผู้ติดต่อของคู่ค้ามีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ โดยไม่กระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ติดต่อของคู่ค้าได้ให้ความยินยอมตามกฎหมาย
2. การเข้าถึง การโอนย้ายข้อมูล การลบ การระงับ การร้องเรียน
ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ติดต่อของคู่ค้ามีสิทธิดังต่อไปนี้ภายในขอบเขตที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติฯ
· สิทธิในการร้องขอ NSSEA เพื่อเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตน หรือร้องขอให้ NSSEA เปิดเผยวิธีการที่ NSSEA ได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ติดต่อของคู่ค้า ตามมาตรา 30 วรรคแรกของพระราชบัญญัติฯ
· สิทธิที่จะได้รับ (หรือร้องขอให้ส่งไปยังบุคคลภายนอก หากสามารถกระทำได้โดยวิธีการอัตโนมัติ) ข้อมูลส่วนบุคคลของตนจาก NSSEA ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ หรือสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตนโดยตรงในรูปแบบที่ NSSEA ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก หากสามารถกระทำได้โดยสภาพทางเทคนิค ตามมาตรา 31 วรรคแรกของพระราชบัญญัติฯ
· สิทธิในการร้องขอให้ NSSEA ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ ตามมาตรา 33 วรรคแรกของพระราชบัญญัติฯ และ
· สิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ NSSEA หรือผู้ประมวลผลข้อมูลของ NSSEA (ตามที่นิยามไว้ในมาตรา 6 ของพระราชบัญญัติฯ) ซึ่งรวมถึงพนักงานหรือผู้รับจ้างของผู้ประมวลผลข้อมูลดังกล่าว ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฯ หรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติฯ ตามมาตรา 73 วรรคแรกของพระราชบัญญัติฯ
3. สิทธิคัดค้าน
ตามมาตรา 32(1) ของพระราชบัญญัติฯ ผู้ติดต่อของคู่ค้ามีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่ถูกเก็บรวบรวมมาตามมาตรา 24(5) ของพระราชบัญญัติฯ เมื่อใดก็ได้ (ดูข้อ ข. ข้างต้น) เว้นแต่ NSSEA
(1) แสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรือ
(2) พิสูจน์ให้เห็นว่าการประมวลผลเป็นไปเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
หากข้อมูลส่วนบุคคลถูกประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของ NSSEA ผู้ติดต่อของคู่ค้ามีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการตลาดนั้นเมื่อใดก็ได้ ตามมาตรา 32(2) และ (3) ของพระราชบัญญัติฯ
4. สิทธิในการระงับการใช้และดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกต้อง
ผู้ติดต่อของคู่ค้าอาจร้องขอให้ NSSEA ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนภายใต้สถานการณ์ ตามมาตรา 34 วรรคแรกของพระราชบัญญัติฯ
ผู้ติดต่อของคู่ค้าอาจร้องขอให้ NSSEA ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนคงความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตามมาตรา 35 ของพระราชบัญญัติฯ หาก NSSEA ไม่ดำเนินการตามคำร้องขอดังกล่าว NSSEA ต้องบันทึกคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพร้อมด้วยเหตุผล
ฉ. ช่องทางการติดต่อเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
หากผู้ติดต่อของคู่ค้ามีคำถามเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตน หรือต้องการใช้สิทธิใด ๆ ที่ระบุในข้อ จ. ข้างต้น ผู้ติดต่อของคู่ค้าอาจติดต่อ NSSEA ได้ที่
บริษัท นิปปอน สตีล เซาท์อีสท์ เอเชีย จำกัด
909 อาคารแอมเพิล ทาวเวอร์ ชั้น 14 ถนนเทพรัตน แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา จังหวัดกรุงเทพฯ 10260
โทร 66-2-744-1480-3 / แฟกซ์ : 66-2-744-1485